Healthy Lifestyle
หัวใจดีได้ ไม่ต้องพึ่งยา ตอน : เบ่งอึก็....เสียชีวิตได้นะ
- รายละเอียด
- จำนวนเข้าชม: 13422

ทราบหรือไม่...เบ่งถ่ายอุจจาระหรือแม้แต่เร่งการปัสสาวะล้วนมีอันตราย มีผู้ป่วยหลายรายที่รอดชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน แต่เมื่อพักฟื้นต่อในโรงพยาบาลเกิดเสียชีวิตกระทันหันขณะเข้าไปเบ่งถ่ายในห้องน้ำ บางคนจะได้กลับบ้านอยู่แล้วก็มาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จึงถือเป็นเรื่องหรือภัยใกล้ตัวที่ไม่อาจมองข้าม เมื่อทราบเช่นนี้แล้วมีเรื่องราวอะไรบ้างที่ควรทราบเกี่ยวกับการขับถ่ายอุจจาระ ในผู้ป่วยโรคหัวใจ
ทำไมหมอจังห้ามเบ่ง
การเบ่ง(ศัพท์แพทย์มีชื่อว่า Valsalva maneuver)หมายถึง การออกแรงกลั้นลมหายใจออก ทำให้เกิดความดันทั้งในทรวงอกและช่องท้องสูงขึ้น พบได้ในการเบ่งหลายชนิด ทั้งเบ่งถ่าย เบ่งปัสสาวะ ไอ หรืออาเจียน การเบ่งถ่ายในคนขับถ่ายยากเพื่อบีบรัดลำไส้ในช่องท้องขับไล่อุจจาระ ซึ่งหลายคนคงใช้เป็นประจำ แต่ถือเป็นข้อห้ามสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ และอีกหลายโรค
ขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ ความดันในช่องทรวงอกจะเพิ่มขึ้น ปริมาณเลือดกลับสู่หัวใจลดลง หัวใจจะบีบเลือดออกได้น้อยลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลง บางรายมีความผิดปกติจากระบบประสาท ทำให้ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะ วิงเวียน และรู้สึกเหนื่อย จนเป็นลมหรือหมดสติไป เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและอาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรงจนถึงขั้นช็อคได้ ในผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด เมื่อเบ่งเพิ่มความดันดังกล่าวจะยิ่งทำให้เลวร้ายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิตกะทันหัน นอกจากนี้การเบ่งยังมีโอกาสเกิดหลอดเลือดแดงในสมองฉีกขาดหรืออุดตันได้ด้วยโดยเฉพาะในรายที่มีโรคความดันโลหิตสูง
อาการท้องผูกเฉียบพลันพบได้ในผู้ใดบ้าง
ท้องผูกเฉียบพลันนั้นเกิดขึ้นได้เสมอขณะพักรักษาในโรงพยาบาล สามารถพบได้ในคนทั่วไป ผู้ที่ท้องผูกเป็นนิสัย หรือถ่ายยากเมื่อไปอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย ชอบวิตกกังวล ผู้ป่วยที่ต้องการรับการผ่าตัด นอนโรงพยาบาลนาน หรือเป็นโรคริดสีดวงทวาร หากท่านมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ถึงไม่โดนถาม ก็ต้องแจ้งแพทย์หรือพยาบาลเพื่อทราบไว้ก่อน เพื่อหาวิธีป้องกัน โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
การปฏิบัติตัวขณะพักรักษาในโรงพยาบาล
ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษา ทั้งที่มีและไม่มีประวัติท้องผูก อาจเกิดความวิตกกังวล ได้รับน้ำน้อย ทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารน้อย เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่ปกติเหมือนอยู่บ้าน หรือนอนเตียงไอซียูอยู่หลายวัน การเคลื่อนไหวของลำไส้อาจช้าลงเป็นสาเหตุให้อุจจาระแข็งตัว ท้องผูกเฉียบพลันได้ คำแนะนำเหล่านี้อาจช่วยท่านได้
- ไม่ควรเบ่งถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ ไอจามรุนแรงโดยเด็ดขาด แม้จะต้องนอนถ่ายบนเตียงผู้ป่วยซึ่งอาจทำให้การขับถ่ายยุ่งยากก็ตาม
- แจ้งแพทย์เมื่อมีประวัติถ่ายยาก หรือท้องผูกเป็นนิจ
- พยายามผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
- ถ้ายังมีอาการท้องผูกอยู่อีก ควรแจ้งแพทย์หรือพยาบาล เพื่อขอยาระบาย
- หากมีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อย ใจสั่น มึนศีรษะ ให้รีบแจ้งพยาบาลทันทีเพื่อดูอาการและควรเพิ่มความระมัดระวังขณะขับถ่ายให้มากขึ้น
การป้องกันอาการท้องผูกเป็นนิจ
คำแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยให้การขับถ่ายประจำวันของท่านเป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้น ไม่ท้องผูกง่ายได้แก่
- ฝึกขับถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา ตั้งแต่วัยเด็ก
- รับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารให้มาก อาหารประเภทนี้จะพบมากในผัก ผลไม้ ควรหลีกเลี่ยงหรือควบคุมอาหารที่มีโคเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ครีม เนย เนื้อ
- ดื่มน้ำ น้ำผลไม่ และน้ำผักให้มากเพียงพอ (ยกเว้นมีข้อห้ามของแพทย์ผู้รักษา) ดื่มน้ำอุ่นหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ 1 แก้ว เวลาตื่นนอนทันที จะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น ไม่ควรดื่มกาแฟและแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้อุจจาระแห้ง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น อาจจะใช้เดินวันละ 20-30 นาที
- ช่วงเวลาเข้าห้องน้ำ อย่ารีบเร่งจนเกินไป ให้เวลากับการขับถ่ายใช้ยาระบายตามแพทย์สั่งและใช้เท่าที่จำเป็น
- ไม่ควรซื้อยาถ่ายหรือสวนทวารมาใช้เอง จนติดเป็นนิสัย
- หากมียาประจำที่ใช้อยู่เดิม ควรปรึกษาแพทย์ เพราะยาบางชนิดอาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูก เช่น แคลเซียม ยาลดกรด ยาแก้ปวดบางชนิด ยาขับปัสสาวะ
หวังว่าสิ่งที่ผิดปกติเล็กน้อยเหล่านี้ ผู้ป่วยโรคหัวใจหรือแม้แต่ผู้ป่วยอื่นก็ไม่ควรมองข้ามนะครับ